2013-08-31

อุปกรณ์วาดการ์ตูน- Pen

Post by Zeren Zarviiolar ที่ 16:47 0 comment
อุปกรณ์วาดมังงะ

คำถามลำดับต้นๆ เวลาที่ได้ไปคุยหรือได้สอนน้องๆ เกี่ยวกับการวาดการ์ตูนญี่ปุ่นนะคะ  ส่วนใหญ่จะเป็น....

1.ใช้ปากกาอะไรตัดเส้น
2.ใช้กระดาษอะไร
3.ใช้ยางลบยี่ห้อไหน
4. ......ฯลฯ ที่เกี่ยวกับอุปกรณ์ในการวาดการ์ตูนระดับมืออาชีพ

แ่น่นอนค่ะ ว่าอุปกรณ์วาดการ์ตูนนั้นไม่ใช่ส่วนหลักที่ทำให้เราวาดรูปเก่ง  แต่ก็ต้องยอมับว่าอุปกรณ์ที่ดีมันสามารถช่วยให้เรารอดตายได้จากหลายๆ เหตุปัจจัยของอุปสรรคในการวาดการ์ตูนเลยทีเดียว  ปากกาวาดการ์ตูนที่ดีช่วยให้เส้นพริ้วนุ่ม ทำให้อิงค์สวยคมชัดมากกว่างานการ์ตูนระดับมือสมัครเล่น  หมึกที่ดีทำให้เส้นลากง่ายขึ้น ไม่เลอะต้นฉบับ  ยางลบนิ่มๆ ช่วยให้กระดาษไม่ขาด ลบดินสอออกง่ายไม่เป็นรอย  กระดาษที่ดี ทำให้เ้ส้นไม่แตก บลาๆๆๆ ร่ายกัันทั้งวันไม่มีวันจบเลยทีเดียว

ไหนๆ ก็ไหนๆ ล่ะ วันนี้จะเอาอุปกรณ์วาดการ์ตูนที่ Ren Ren Team มักใช้กันเป็นส่วนใหญ่มาแนะนำค่ะ  (เราแนะนำของที่เราใช้กันจริงๆ นะคะ ไม่ได้แฝงโฆษณา อิ อิ)

อุปกรณ์สำหรับการวาดการ์ตูนญี่ปุ่น

1. ปากกาตัดเส้นงานการ์ตูน (Pen)

ปากกาวาดการ์ตูน

หัวใจสำคัญสำหรับการวาดการ์ตูนญี่ปุ่นนั้นก็คือ 'เส้น'  ตรงนี้ศัพท์ที่เราใช้กันคือ Ink.... อิงค์สวย ก็เท่ากับงานลายเส้นคุณสวย งานลายเส้นหมายรวมถึงงานที่ต้องลงเส้นลงดำทั้งหมด ทั้งการตัดเส้น ถมดำ ตรงนี้จะเรียกรวมๆ กันว่าอิงค์  และส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญสำหรับในงานการ์ตูนเลยก็คือ Pen หรือก็คือ ปากกาสำหรับตัดเส้นงานการ์ตูนญี่ปุ่นนั่นเอง

อ่านต่อ



2013-08-19

แจกลาย Screen tone สำหรับตกแต่งงานการ์ตูนญี่ปุ่นจ้า~

Post by Zeren Zarviiolar ที่ 12:27 1 comment
พอดี(หลาย)วันก่อน ได้มีโอกาสไปสอนวาดการ์ตูนให้น้องๆ ที่ รร.โพธิสาร มานะคะ ก็ได้ไปเจอกับผีสิงโต๊ะ เอ๊ย!! ไม่ใช่ น้องสตางค์แห่ง รร.โพธิสาร กำลังวาดการ์ตูนเรื่อง พี่น้องแวมวาย เอ๊ย! แวมไพร์ทั้ง 7 อยู่พอดี น้องสตางค์จึงได้เอาต้นฉบับมาให้ดูและสอนทริกการเขียนการ์ตูนไปเล็กๆ น้อยๆ

วันนั้นนอกจากจะสอน Perspective ไปแล้ว (ได้ห้องมา 1 ห้องกับเตียง 1 เตียง พร้อมด้วยประตูสุดหรู 555+ )  ก็ได้พบว่ามีฉากบางฉากที่สตางค์วาดไม่ได้  ซึ่งก็คือฉากของบ้าน (อย่างหรู) อันเป็นฉากเปิดเรื่อง… ที่ใช้เพียงแค่ช่องเดียว เฟรมเดียวในเรื่อง

แหม… ไอ้คุณพี่จะสอนให้คุณน้องวาดปราสาททั้งหลัง (บ้านหรู) พร้อมด้วยห้อง เตียง ประตู บลาๆๆ ทุกอย่างให้เสร็จภายในวันเดียวมันก็เป็นเรื่องอยากอยู่ล่ะนะคะ โดยเฉพาะบ้าน (ซึ่งต่อไปนี้จะขอจำกัดความหรูขนาดนั้นว่า ‘ปราสาท’) อันว่าความหรูเริ่ดขนาดนั้นมันต้องใช้ความสามารถทาง Perspective ระดับเมพ  ที่บ่องตงเลยค่ะ ว่าต่อให้คนสอนจะสอนให้ได้ภายในวันเดียว แต่คนเรียนไม่มีทางสามารถวาดออกมาได้อย่างเป๊ะเด๊ะภายในวันเดียวอย่างแน่นอน

ด้วยเหตุเช่นนี้เอง คิดไปคิดมาพี่เซเรนก็เห็นทางรอดอยู่ทางเดียวนั่นก็คือ….. พึ่งสกรีนโทน ไปเลยจ้า!!

Screen Tone (สกรีนโทน) คืออะไร

อันว่าสกรีนโทนคืออะไร  แปลตามรากศัพท์ Screen = จอ, Tone = เสียง  Screen Tone จึงแปลว่า ‘เสียงของจอ’ …. เฮ้ย!! ไม่ใช่ล่ะ o.O!! (<มุขสักหน่อย อิ อิ)
เอาจริงล่ะนะ…

สำหรับน้องๆ ที่รักงาน Manga หรือการ์ตูนญี่ปุ่น หลายๆ คนคงจะเคยได้ยินคนพูดถึง Screen Tone กันมาบ้างนะคะ  มันคือ Accessory อย่างหนึ่งที่ใช้สำหรับตกแต่งงานการ์ตูนของเราให้สวยงามและดูดีมากขึ้นค่ะ

อันว่างานการ์ตูน Manga หรือการ์ตูนญี่ปุ่นที่เราๆ ท่านๆ อ่านกันอยู่นั้น ก็ดังจะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่แล้วมันเป็นงานการ์ตูนขาวดำ ซึ่งจะต่างกับภาพสีตรงที่การไล่แสงเงาให้ชัดเจนคมชัดในหลายระดับนั้นทำได้ค่อนข้างยาก  และโดยส่วนใหญ่แล้ว นักเขียนการ์ตูนจะไม่ค่อยใช้ ‘หมึกผสมน้ำ’ ในการตกแต่งแสง-เงา ของงานการ์ตูน  เพราะการควบคุมน้ำหนักเข้มอ่อนค่อนข้างยากและไม่เสถียร ที่สำคัญ  เวลาตีพิมพ์ (ในยุคสมัยก่อนจะมีการพิมพ์ระบบออฟเซ็ท) เงาในส่วนของหมึกผสมน้ำมันจะไม่คมชัดดูเป็นแสง-เงา และจะทำให้งานที่พิมพ์ออกมาเลอะเทอะอย่างน่าไว้อาลัยเป็นอันมาก

สกรีนโทนลายสีผิว


วิวัฒนาการต่อมามนุษย์ (ใครก็ไม่รู้ แต่แน่ๆ คือผู้มีพระคุณของนักเขียนการ์ตูน) จึงได้คิดค้นสิ่งที่เรียกว่า Screen Tone (สกรีนโทน) ขึ้นมาเพื่อใช้ตกแต่งไล่โทนแสง-เงาของงานการ์ตูนขาว-ดำ  ซึ่งในระยะแรกๆ จะมีเพียง Screen Tone ลายจุดๆๆๆๆๆ ที่เอาไว้ตกแต่งในส่วนเงาต่างๆ ของงานการ์ตูนเท่านั้น

และวิวัฒนาการต่อมามนุษย์ (ใครก็ไม่รู้  แต่แน่ๆ คือผู้มีพระคุณของนักเขียนการ์ตูน) จึงได้พัฒนาสิ่งที่เรียกว่า Screen Tone ให้มีหลากหลายลาย ง่ายและสะดวกในการใช้มากขึ้น ทั้งสกรีนลายดอกไม้ ลายสก็อต  ลายท้องฟ้า บ้าน ตึก บลาๆๆๆๆ  ซึ่งนับได้ว่าเป็นที่ถูกอกถูกใจต่อนักเขียนการ์ตูนมากค่ะ เพราะการ์ตูนถึงแม้จะเป็นงานศิลปะ แต่ก็นับเป็นศิลปะในเชิงพาณิชย์ที่ต้องอาศัยเวลาและความรวดเร็ว โดย Screen Tone ลายต่างๆ ที่ออกมานั้น เรียกได้ว่าดุจดังพระเป็นเจ้าของนักเขียนการ์ตูนเลยทีเดียวที่สามารถช่วยให้เราผลิตผลงานออกมาได้อย่างรวดเร็ว มีคุณภาพ โดยไม่ต้องนั่งวาดฉากทีละเฟรมๆ ทุกเฟรม หรือต้องมานั่งตีเปอร์ (Perspective เขียนฉาก) ในทุกๆ เฟรมที่จะต้องวาดตึก วาดที่อยู่อาศัย

อันว่าเราจะยังไม่พูดถึงสกรีนคอมพ์,สกรีนแฮนด์เมค และวิธีติดสกรีนอะไรกันให้ยุ่งยากนะคะ  เพราะเจตนาที่พี่ Zeren ร่ายมาซะยาวขนาดนี้ก็เพื่อแค่จะแนะนำน้องๆ เผื่อว่าจะมีใครที่ไม่รู้จักว่าสกรีนโทนคืออะไร  และเมื่อรู้ว่าคืออะไรกันแล้ว เจตนาหลักต่อมาก็คือ…

แจกสกรีนโทนลายตึก ราม บ้าน ช่อง ห้องเรียน ที่อยู่อาศัย ฯลฯ จ้า~!!


ก็พอดีสืบเนื่องมาจากสตางค์อีกนั่นแลค่ะ มาขอลายสกรีบกับพี่ ซึ่งพอมาเปิดๆ ไฟล์ดูแล้วพี่เซเรนก็มีเก็บเอาไว้อยู่ค่อนข้างมาก โดยส่วนใหญ่จะเป็นลายที่สแกน… คือหลายลายไม่ได้มีอยู่ในโปรแกรมสกรีนอย่าง Manga studio แต่เป็นลายที่เก็บสะสมมาแต่อดีตชาติ (ในยุคที่ยังต้องซื้อสกรีนแผ่นๆ ใช้อยู่)  อาจมีน้อยลายที่ทำเอง (สำหรับลายตึกนะ แต่ลายพวก texture อันนี้จะทำเองเยอะอยู่ :) ) แต่ก็นั่นแหล่ะค่ะ สรุปๆ ก็คือ มันมีหลายลาย แล้วไหนๆ ก็มีเยอะแล้ว เลยขอแจกซะ  เอาเป็นว่าใครสนใจก็โหลดไปใช้กันได้นะคะ  พี่ไม่ห้ามไม่หวงค่ะ แต่ก็ขอเตือนกันก่อนว่า เนื่องจากมันเยอะ ไฟล์เลยใหญ่ๆ โหลดโหดมากเลยนะคะ :D



รีวิว Sample ให้ดูเฉยๆ ของจริงมีเยอะกว่านี้มากๆๆๆๆๆ ค่ะ สามารถตามไป DL กันได้เลยนะคะ :D

Screen Tone Free Download.


2013-08-16

Composition - ทำภาพให้โดดเด่น

Post by Zeren Zarviiolar ที่ 14:58 0 comment
ทักษะพื้นฐานก้าวสู่ Artist มืออาชีพ [Part 2]


บทความเปิดบล็อกคราวที่แล้วเราพูดกันถึง Composition  ก็มีข้อความแมสเซจเข้ามาถามกันบ้างระดับหนึ่ง เลยทำให้พี่เซเรนได้รู้ว่ามีน้องๆ หลายคนที่เข้าใจคำนี้ว่าหมายถึงท่าทาง แอคติ้งต่างๆ ของตัวละครในการวาดการ์ตูนญี่ปุ่น…. เอ่อ… เหมือนจะใช่ แต่ก็เหมือนมันจะไม่ใช่นะคะ  เอาเป็นว่าคอมโพสต์ที่พี่กล่าวถึงนั้นคือ Composition หรือในภาษาไทยก็คือ ‘องค์ประกอบศิลป์’  เป็นการจัดวางสิ่งต่างๆ ให้เกิดความลงตัว สวยงาม สื่อความรู้สึก ฯลฯ ในงานศิลป์ของเรา เอาเป็นว่าถ้าใครยังไม่เก็ทก็สามารถคลิกย้อนไปอ่านบทความเดิมใน Composition กฏข้อที่ 1 กันได้เลยค่ะ


2. Iconic (ความโดดเด่น)

จากกฏของที่ 1 เราก็มาต่อกฏข้อที่ 2 ซึ่งเมื่อพูดถึง Composition ในแนวทางของ Rule of thirds แล้วก็ทำให้ละเลยไปไม่ได้ที่จะเอ่ยถึง Iconic (สัญลักษณ์) หรือความโดดเด่นของภาพ

ในทางตรงกันข้ามกับ Rule of thirds ซึ่งจะวางจุดเด่นหรือจุดดึงดูดสายตาเอาไว้ ณ มุมใดมุมหนึ่งของจุดตัดระหว่างเส้น ภาพที่สะดุดสายตาของผู้คนมากที่สุดกลับเป็นภาพที่เจาะจงจุดเด่น (focal point) เอาไว้ ณ  ตรงกลางภาพ

ในงานพาณิชย์  ภาพที่ผลิตออกมาเพื่อการค้าต่างๆ อาทิ ภาพปกหนังสือ ปก CD, DVD ฯลฯ แม้จะมีอยู่บ้างที่วางคอมโพสต์เอาไว้ในแนวทางของ Rule of thirds แต่โดยส่วนมากแล้ว ภาพที่ focal point ปรากฏออกมาชัดเจนโดดเด่นในตำแหน่งกลางของภาพมักจะได้รับความสนใจจากผู้ซื้อมากยิ่งกว่า
หรือแม้แต่ภาพวาดใน Gallery ต่างๆ ซึ่งเมื่อลำดับภาพหลายๆ ภาพเรียงกันแล้ว ภาพที่  focal point อยู่ ณ ตรงกลางภาพก็จะดึดดูดสายตาของผู้คนราวกับว่ามีความโดดเด่นเป็นสัญลักษณ์อยู่ในตัวของมันเอง



จากภาพ เราจะเห็นได้ว่าการวาง focal point ณ พื้นที่ตรงกลางซึ่งทำให้ภาพให้ดูโดดเด่นนั้น เราสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการลากเส้นทะแยงระหว่างมุมด้านด้านหนึ่งไปยังมุมภาพอีกด้านหนึ่ง 2 เส้นให้เกิดเป็นจุดตัดกัน ณ กึ่งกลางของภาพ พื้นที่ตำแหน่งกึ่งกลางภาพแผ่ออกไปในรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด  พื้นที่ตรงส่วนนั้นนับเป็นพื้นที่ที่โด่ดเด่นที่สุดในการวางคอมโพสต์ภาพให้ดูสะดุดตา




2013-08-14

Composition ว่าด้วยการจัดวางองค์ประกอบ

Post by Zeren Zarviiolar ที่ 12:59 0 comment
ทักษะพื้นฐานก้าวสู่ Artist มืออาชีพ [Part1]

ปกติเวลาวาดการ์ตูน คนเรามักจะฝึกวาดตามจากการ์ตูนเรื่องที่ชอบและนักเขียนที่ชื่นชอบกันเสียเป็นส่วนใหญ่…. เป็นส่วนใหญ่มากเสียจนบางคนแทบจะลืมกันไปแล้วว่าการวาดรูป... และรวมถึงการวาดการ์ตูนนั้น ‘พื้นฐานศิลปะ’ นับเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ภาพสวยๆ ขึ้นมาสักภาพหนึ่ง  เอาล่ะ…. ก่อนที่เราจะมาเริ่มต้นจับดินสอขีดๆ เขียนๆ เส้นอะไรขึ้นมาสักภาพ วันนี้เรามาพูดถึงทักษะที่เป็นพื้นฐานมากๆๆๆๆๆ สำหรับการวาดรูป ซึ่งก็คือ ‘องค์ประกอบศิลป์’ หรือ Composition กันดีกว่าค่ะ

Composition. (องค์ประกอบ)

Composition (การจัดวางองค์ประกอบ) หรือที่ภาษาเด็กอาร์ตทั่วไปเรียกกันว่า คอมโพสต์ (Composite) นั้น นับเป็นสิ่งสำคัญที่สุดอันเป็นพื้นฐานเริ่มต้นของทุกสิ่ง ภาพของเราจะโดดเด่น ดึงดูด ชวนมอง มากหรือน้อยแค่ไหน ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับคอมโพสต์ทั้งนั้น  ซึ่งในการจัดวางคอมโพสต์ให้น่าสนใจก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นเลย มีทริก... หรือกฎง่ายๆ  อยู่ไม่กี่ข้อตามนี้เลยค่ะ

1. Rule of Thirds (กฎสามส่วน)
ถ้าจะให้เข้าใจกันได้ง่ายๆ ในตำราบางเล่มก็จะเรียกว่า ‘กฎ 3 ส่วน 9 ช่อง’ ให้ลองสังเกตภาพที่เราพบเห็นกันโดยทั่วไปนะคะ ว่าโดยส่วนใหญ่ภาพที่เรียบๆ โล่งๆ บางภาพกลับกลับดึงดูดสายตาและสร้างอารมณ์บางอย่างให้กับคนมองได้อย่างน่าประหลาด  ภาพเหล่านั้นทำได้อย่างไร?  ประเด็นก็คือจุดเด่นหรือจุดดึงดูดสายตาที่ไม่จำเป็นต้องใส่รายละเอียดหรือดึงจุดเด่นของภาพมาไว้ตรงกลางอย่างโต้งๆ  เพียงแค่มุมบางมุมของ Rule of thirds ก็สามารถทำให้ภาพที่เรียบๆ โล่งๆ บางภาพสามารถดึงดูดสายตาได้อย่างน่าอัศจรรย์

ภาพตัวอย่าง: Way of the Wizard by kaioshen.

วิธีการหาจุดรวมสายตาตามบัญญัติของ Rule of thirds เราสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการแบ่งภาพออกเป็น 9 ส่วนเท่าๆ กัน โดยลากเส้นแบ่งภาพในแนวนอน 3 เส้น และแนวตั้ง 3 เส้น เพื่อหาจุดรวมสายตา (จุดดึงดูดสายตา) ที่จะปรากฏอยู่เพียงหนึ่งเดียวบนจุดตัดของเส้นแบ่งที่มาบรรจบกัน หากวางคอมโพสต์ของภาพเอาไว้ในตำแหน่งของเส้นตัดด้วยวิธีการนี้ มันจะทำให้ภาพดูมีเสน่ห์น่าสนใจแปลกไปจากการวางจุดเด่นหรือคอมโพสต์ไว้หราตรงกลางภาพ


 

Manga Teaching Copyright 2009 Sweet Cupcake Designed by Ipiet Templates | Thanks to Blogger Templates | Image by Tadpole's Notez